วันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2558

มารยาท ระเบียบ และข้อบังคับในการใช้อินเทอร์เน็ต

มารยาท ระเบียบ และข้อบังคับในการใช้อินเทอร์เน็ต

จากปัญหาการล่อลวงอันเกิดจากการเล่นอินเทอร์เน็ตที่นับวันยิ่งมีมากขึ้นทำให้หน่วยงานที่รับผิดชอบได้พยายามหามาตราป้องกันปัญหาและภัยจากการใช้อินเทอร์เน็ต ซึ่งเกิดจากคนที่ขาดจิตสำนึกที่ดีต่อสังคม ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะสร้างจิตสำนึกที่ดีต่อตนเอง และสังคม เพื่อหลีกเลี่ยงเเละรับมือกับความเสี่ยงจากภัยออนไลน์ ทั้งนั้รองศาสตราจารย์ยืน ภู่สุวรรณ ได้กล่าวถึง บัญญัติ 10 ประการ ซึ่งเป็นจรรยาบรรณที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตควรยึดถือไว้เสมือนเป็นแม่บทของการปฏิบัติ ซึ่งผู้ใช้ควรระลึกและเตือนความจำเสมอ ดังนี้

 1.ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์ทำร้าย หรือละเมิดผู้อื่น เช่น ไม่เผยแพร่ข้อความกล่าวหาบุคคลอื่นให้ได้รับความเสียหาย ไม่เผยแพร่รูปภาพลามกอนาจาร เป็นต้น
 2.ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์น เช่น การเล่นเกมหรือเปิดเพลงด้วยคอมพิวเตอร์รบกวนผู้อื่นที่อยู่ใกล้เคียง
 3.ต้องไม่สอดเเนม แก้ไข หรือเปิดดูเเฟ้มข้อมูลของผู้อื่นก่อนได้รับอนุญาต
 4.ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการโจรกรรมข้อมูลข่าวสาร
 5.ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์สร้างหลักฐานที่เป็นเท็จ
 6.ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์คัดลอกหรือใช้โปรเเกรมของผู้อื่นที่่มีลิขสิทธิ์โดยไม่ได้รับอนุญาต
 7.ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์ละเมิดการใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์โดยที่ตนเองไม่มีสิทธิ์
 8.ต้องไม่นำเอาผลงานผู้มาเป็นของตน
 9.ต้องคำนึงถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับสังคมอันเป็นผลมาจากการกระทำของตน
 10.ต้องใช้คอมพิวเตอร์โดยเคารพกฎ ระเบียบ กติกา และ มีมารยาทของหน่วยงาน สถาบันหรือ     สังคม นั้นๆ

วันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2558

สู้เพื่อเเม่

วันแม่

แม่ คำๆนี้เป็นเพียงคำสั้นๆ แต่มีความหมายที่ลึกซึ้ง ท่านคือผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่งบนโลก แต่กลับเป็นคนพิเศษสำหรับลูกรัก แม่คือผู้ประเสริฐสุดในชีวิตทุกๆชีวิต เป็นผู้ที่สามารถให้ทุกสิ่งทุกอย่างแก่ลูกได้ ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สิน เงินทอง ของมีค่าหรือแม้กระทั่ง ลมหายใจที่ยังเหลืออยู่ของแม่
ตลอดเวลาตั้งแต่ยังอยู่ในท้องแม่ จน ณ วินาทีนี้แม่ก็ได้ทำหน้าที่เป็นผู้ให้ไม่มีสิ้นสุด แม่ให้ทั้งความรัก ความห่วงหา ความห่วงใย ความอาทร อีกทั้งยังมอบความรักที่มิอาจมิรักใดมาทดแทนได้ให้แก่เรา นั่นก็คือความรัก ความผูกพัน ระหว่าง … แม่ และ ลูก … รักของแม่นั้นเปรียบดั่งสายธารา ที่คอยระงับความทุกข์ใจของลูก แม้ในยามที่ลูกไม่ต้องการ แต่เรานั้น…ไม่เคยนึกถึงความรู้สึกของแม่เลย เรากลับทำให้แม่ต้องเจ็บช้า เสียน้ำตา ในบางกิริยาที่เราแสดงออก ถึงกระนั้นก็ตาม ในเวลาที่ลูก รักมีปัญหา แม่ก็คือผู้ให้คำปรึกษาเป็นอย่างดีในเวลาที่ลูกรักต้องเสียน้ำตา แม่ก็สละเวลาทำงานของแม่ มาคอยปลอบโยนไม่คิดโกรธ หรือเคืองลูกรักแม้แต่น้อย ที่ในบางครั้งบางคราว ลูกรักก็ไม่เชื่อฟังคำที่แม่พร่ำสั่งพร่ำสอน ถ้าจะให้เปรียบพระคุณของแม่นั้นก็คงจะเปรียบประดุจ  ผืนทราย  ที่ไม่มีจุดหมายปลายทาง เหมือนรักของแม่ที่มีแต่การให้เพียงอย่างเดียว ไม่ต้องการสิ่งใดตอบแทน นอกจากรอยยิ้มของลูก ความรู้สึกที่แม่มีต่อลูกนั้นเปรียบประดุจดั่ง ?พื้นน้ำ? ที่ไม่มีวันหมดสิ้นไปจากโลกา ในช่วงเวลาต่างๆในชีวิต เรานั้นก็ต่างผ่านอารมณ์ต่างๆ มามากมาย ในเวลาที่เรามีความสุข แม่ก็มีความสุขไปกับเรา แต่ในเวลาที่เราทุกข์แม่กลับทุกข์กว่าเราหลาย 10 หลาย 100 เท่า แต่ท่านก็ไม่เคยแสดงออกถึงความอ่อนล้า ความเหน็ดเหนื่อยของท่านให้เราได้สังเกตเห็นเลย แม่ของเรานี้ช่างอดช่างทนเหลือเกิน แต่ที่ท่านอดทนนี้ก็ด้วยความรัก ความห่วงใย และความผูกพันที่มีต่อลูกทั้งสิ้น ในชีวิตนี้ แม่ยอมโกหกเราเพื่อให้เรามีความสุข โกหกนั้นก็คือ คำว่า  ไม่เหนื่อย ไม่โกรธ ไม่เจ็บ ไม่เศร้า และไม่ในอีกหลายๆอย่าง  ของแม่ แม่พูดคำๆนี้ออกมาในความหมายตรงกันข้ามกับความเป็นจริง แต่ที่โกหกนี้ก็เพื่อไม่ให้ลูกรักต้องกังวลถึงเรื่องของตนเอง
พระคุณที่แม่ได้มอบให้แก่เรา ไม่ว่าจะให้มีกระดาษกี่ร้อยกี่พันแผ่นก็ไม่สามารถเขียนบรรยายออกมาได้หมด สิ้น หรือต่อให้นักพูดมืออาชีพมาบรรยาย ก็มิอาจจะพูดได้ลึกซึ้งเท่าใจสัมผัส ความรู้สึกนี้มัน  เกินจะบรรยาย จริงๆ ทุกสิ่งทุกอย่างมิอาจ ทดแทน